วันอาทิตย์ที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2560

บทความจากผู้ชายผู้หนึ่งที่น่าประทับใจ / หารายได้พิเศษ2560


บทความจากผู้ชายผู้หนึ่งที่น่าประทับใจ / หารายได้พิเศษ

แม่โกหกเพื่ออะไร......คนที่รักเราจริงคือใคร

 เรื่องเริ่มขึ้นตอนเมื่อผมเป็นเด็ก ๆ ผมเกิดในครอบครัวยากจน
ครอบครัวของเราจนมากจนต้องอดข้าวบ่อยๆ เมื่อไหร่ก็ตามเมื่อถึงเวลากินข้าว...แม่จะแบ่งข้าวมาให้ผม
เพิ่มขึ้นอีก พร้อมทั้งพูดว่า'ลูกต้องกินข้าวเพิ่มขึ้นนะ...ส่วนแม ่ไม่ค่อยหิว'
นี้เป็นครั้งแรกที่แม่โกหกผม 2. เมื่อผมเติบโตขึ้น คุณแม่เพียรพยายามหาเวลาว่างไปตกปลาในแม่น้ำ
เพื่อว่าผมจะได้กินอาหารที่มีประโยชน์ต่อการเจริญเติบโตของผม
แม่ต้มปลาที่ตกมาได้ทำเป็นซุปให้ผมกิน ในขณะที่ผมกินแกงต้มปลา..แม่จะนั่งข้าง ๆผม แทะกิน เศษเนื้อ
ปลาที่ติดอยู่ตามก้างปลาหลังจากที่ผมได้กินเนื้อปลาไปแล้ว ผมรู้สึกตื้นตันใจมาก..ผมพยายามแบ่งเนื้อ
ปลาให้แม่ แต่แม่ปฎิเสธทันควันพร้อมกับกล่าวว่า 'ลูกกินเถอะ...แม่ไม่ค่อยชอบกินเนื้อปลา'
นี่เป็นครั้งที่ 2 ที่แม่โกหกผม 3. เมื่อผมเรียนอยู่ชั้นมัธยม เราต้องใช้เงินเพิ่มมากขึ้น แม่ต้องหารายได้พิเศษ
ด้วยการรับงานเล็ก ๆน้อยจากโรงงานมาทำที่บ้าน บางครั้งผมตื่นขึ้นมาตอนตี 1 หรือตี 2...ผมยังเห็นแม่
กำลังทำงาน 'แม่ครับ...นอนเถอะครับมันดึกมากแล้ว พรุ่งนี้แม่ต้องไปทำงานอีก' แม่ยิ้มกับผมพูดว่า
ลูกนอนต่อก่อนนะ...แม่ยังไม่เหนื่อย...นอนไม่หลับ' ครั้งที่ 3 แล้วที่แม่โกหกผม 4. ตอนเมื่อใกล้จบชั้น
มัธยมผมต้องไปสอบเป็นวันสุดท้าย แม่อุตส่าห์หยุดงานไปเป็นเพื่อนและเพื่อเป็นกำลังใจให้ผม
มันเป็นวันที่แดดร้อนมาก ๆ...แม่ต้องรอผมอยู่หลายชม. เมื่อผมทำข้อสอบเสร็จ...รีบออกมาหาแม่ เห็นแม่
ผมมีเหงื่อออกท่วมตัว.. แต่ท่านกลับรินน้ำเย็นที่เตรียมมาให้ผมดื่ม
ผมเห็นแม่รู้สึกเหนื่อยและร้อนจึงขอให้แม่ดื่มน้ำก่อน แม่พูดขึ้นว่า
'ลูกดื่มเถอะ....แม่ยังไม่กระหายน้ำ' นั่นเป็นครั้งที่ 4 ที่แม่โกหกผม 5.
หลังจากที่พ่อผมล้มป่วยและเสียชีวิต คุณแม่ต้องทำงานหนักขึ้นเพื่อหารายได้มาจุนเจือครอบ
ครัว แต่ก็ยังไม่ค่อยเพียงพอไม่ว่าคุณแม่จะพยายามมากขึ้นเพียงไร คุณลุงที่อยู่ข้าง ๆบ้านท่านเป็นคนดี
พยายามมาช่วยเหลือครอบครัวเราเสมอ....เช่นซ่อมแซมบ้านที่ผุพัง..ฯลฯ เพื่อนบ้านเห็นครอบครัวลำบาก
มากก็แนะนำให้แม่แต่งงานใหม่ แต่แม่ยืนกรานไม่เห็นด้วย แม่พูดกับผมว่า
แม่มีลูกอยู่ทั้งคน...แม่ไม่ต้องความรักอีก' แม่โกหกผมเป็นครั้งที่ 5 แล้ว
6. ในทื่สุดผมก็เรียนจบและมีงานทำ ผมอยากให้แม่ซึ่งตรากตรำทำงานหนักมาตลอดได้พักผ่อนบ้าง
แต่แม่ไม่ยอม.....กลับไปตลาดทุกเช้า ขายผักที่หามาได้เพื่อเลี้ยงชีพทั้ง ๆที่ผมพยายามส่งเงินมาให้แม่
(ผมต้องไปทำงานในเมืองที่ห่างไกล) แม่ผมไม่ค่อยยอมรับเงินผม..บางครั้งยังส่งเงินกลับคื นให้ผมอีก แม่
พูดกับผมว่า 'แม่มีเงินพอใช้แล้ว...ลูกควรเก็บเงินไว้สร้างฐานะ' แม่โกหกผมเป็นครั้งที่ 6
7. เพื่ออนาคตที่ก้าวหน้า.. ผมตัดสินใจเรียนต่อปริญญาโทด้วยทุนของมหาวิทยาลัยที่ม ีชื่อเสียงใน
อเมริกา เมื่อผมเรียนจบก็ได้งานทำที่นั่นและมีเงินเดือนค่อนข้างสูง
เมื่อทำงานไปได้สักพัก...ผมอยากให้แม่ผมมาอยู่กับผมที่อเมริกา
เพื่อว่าแม่จะได้หยุดทำงาน...พักผ่อนให้สบายในบั้นปลายของชีวิต
แต่แม่ผมไม่อยากรบกวนผม...บอกผมว่า 'แม่ไม่คุ้นเคยกับชีวิตต่างแดน' ครั้งที่ 7
แล้วซินะที่แม่โกหกผม 8. เมื่อแม่แก่ตัวลงไปเรื่อย ๆ..
ในที่สุดแม่ก็เป็นมะเร็งและต้องเข้ารับการผ่าตัดที่โรงพยาบาล
ผมลางานแล้วรีบบินกลับมาหาแม่สุดที่รักทันที
แม่ผมนอนพักฟื้นอยู่บนเตียงเมื่อผมไปถึง น้ำตาผมไหลอาบแก้มเมื่อเห็นแม่ซึ่งผ่ายผอมและดูทรุดโทรมลง
อย่างมาก แม่รู้สึกดีใจมากที่เห็นผม....พยายามยิ้มอย่างสดชื่น ด้วยความลำบาก
ผมรู้ดีว่าแม่ได้ฝืนความเจ็บปวดรวดร้าวอย่างสุดฝืน จากโรคมะเร็งร้ายที่ลามไปทั่วทั้งตัว ผมโอบกอดแม่
พร้อมกับร้องไห้ด้วยความสงสาร หัวใจผมในขณะนั้นเศร้าหมองและเจ็บปวดอย่างที่สุด
แม่พยายามปลอบผมด้วยเสียงที่แหบพร่าและสั่นเครือ 'ลูกรักของแม่...เห็นหน้าลูกแม่ไม่รู้สึกเจ็บแล้ว' นี่
เป็นครั้งที่ 8
ที่แม่โกหก และเป็นครั้งสุดท้ายในชีวิตของแม่ที่โกหกผม
แม่ที่ผมรักและบูชามาตลอดชีวิตได้ปิดตาลงและจากผมไปอย่างไม่มีวันกลับ
หลังจากที่เธอกล่าวคำโกหกครั้งที่ 8 จบลง......... แปลและเรียบเรียงจาก

> >อย่าลืมว่ามีคนๆนึงนึกถึงอยู่นะครับ


 จากบทความนี้อาจช่วยเตือนใครหลายคนว่าคนที่รักเราจริงก็มีแต่พ่อกับแม่ท่านให้ความรักเรา
ทำเพื่อเราโดยที่ท่านไม่ต้องการอะไรเพียงแต่ขอให้เราเป็นคนดี ในฐานะที่เราเป็นลูกเราได้แสดงความ
กตัญญูต่อท่านหรือยัง....คิดถึงท่านบ้างอย่ามุ่งแต่ทำงาน........อาจในวันหนึ่งท่านจากเราไปเราอาจไม่ได้
แสดงความกตัญญูต่อท่านก็เป็นได้หรือแม้แต่ลมหายใจสุดท้ายของท่านเราอาจไม่ได้สัมผัส

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น